วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

RIM เปิดตัวโอเอสใหม่ ‘แบล็กเบอร์รี่ 6’


            
                

ระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่ตัวล่าสุด ใช้ได้ทั้งรุ่นจอสัมผัสและรุ่นแป้นพิมพ์ ชูเรนเดอร์หน้าเว็บ ขณะท่องอินเทอร์เน็ตได้เร็ว และเครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดนิยม เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทรีเสิร์ช อิน โมชั่น หรือ ริม (Research In Motion- RIM) ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนตระกูลแบล็กเบอร์รี่ ประกาศเปิดตัวระบบปฏิบัติการ (โอเอส) แบล็กเบอร์รี่ 6 (BlackBerry 6) ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่ สามารถใช้งานได้กับทั้งสมาร์ทโฟนหน้าจอระบบสัมผัส และแป้นควบคุมการทำงานแบบปลายนิ้วสัมผัส (หรือ แทร็คแพด) เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น นอกจากนั้นยังมาพร้อมความการรับส่งข้อความ ระบบการจัดการ และติดตามสังคมออนไลน์ และเทคโนโลยี RSS feeds และระบบ Universal Search และบราวเซอร์ตระกูล WebKit ที่สามารถเรนเดอร์ภาพหน้าเว็บได้รวดเร็ว และสวยงาม

นายไมค์ ลาซาริดิส ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (โค-ซีอีโอ) บริษัท รีเสิร์ช อิน โมชั่น กล่าวว่า ระบบปฏิบัติการแบล็กเบอร์รี่ 6 คือ ผลจากความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของริม ในการนำเสนอประการณ์ในอีกระดับชั้นของการใช้งานสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่ ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ลงตัวสำหรับผู้ใช้งานที่ใช้สมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่ ทั้งแบบจอสัมผัส และแบบแป้นคีย์บอร์ด โอเอสใหม่นี้เป็นผลจากการค้นคว้าวิจัย และการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานแบล็กเบอร์รี่ พร้อมนำเสนอประสบการณ์ด้านการสื่อสาร การค้นหาข้อมูล และประสบการณ์ด้านมัลติมีเดียที่คาดว่าจะถูกใจผู้ใช้งาน และริมมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งในการนำเสนอระบบปฏิบัติการแบล็กเบอร์รี่ 6 ไปพร้อมกับการเปิดตัวแบล็กเบอร์รี่ ทอช 9800 (BlackBerry Torch) สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ
 
โค-ซีอีโอ บริษัท รีเสิร์ช อิน โมชั่น กล่าวต่อว่า โอเอสใหม่นี้ ได้รับการออกแบบเพิ่มเติมจากระบบระบบปฏิบัติการเดิม เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น มาพร้อมกับมุมมองที่หลากหลาย (Multiple views) ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการกับแอพลิเคชัน และคอนเทนท์ต่างๆ โดยไอคอนต่างๆ จะแสดงไว้บนหน้า Home Screen ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกมุมมองการแสดงแอพลิเคชันได้ถึง 5 รูปแบบ (ได้แก่ All, Favorites, Media, Downloads และ Frequent) อีกทั้งยังเพิ่มข้อมูลผู้ติดต่อ หรือทางลัดหน้าเว็บได้โดยตรงบนหน้า Home Screen

นายลาซาริดิส กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งในคุณสมบัติพิเศษ คือ Action Menus ที่มีความละเอียดของการแสดงผลภาพสูง ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ได้ตามสถานการณ์ที่ต้องการ (context-sensitive) ในแอพลิเคชันอันใดอันหนึ่ง ผู้ใช้งานสามารถนำเอาวิธีการใช้งาน หรืองานที่ใช้บ่อยที่สุดของแอพลิเคชันนั้นๆ มาวางไว้บนหน้าจอหลักได้ง่ายๆ เพียงคลิก trackpad และค้างไว้ หรือสัมผัสหน้าจอค้างไว้ นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังใช้งานได้หลายพร้อมกันได้อย่างราบรื่น เพียงกดปุ่ม Menu ค้างไว้ โดยก็จะมี pops up แสดงตารางภาพ (visual grid) ของทุกแอพลิเคชันที่กำลังใช้งานอยู่ปรากฎขึ้นมา จากนั้นก็สามารถใช้งานแอพลิเคชันต่างๆ สลับกลับไปมาได้ทันที รวมทั้งระบบ Universal Search เพื่อการค้นหาคอนเทนท์ต่างๆ ที่อยู่ในเครื่อง

โค-ซีอีโอ บริษัท รีเสิร์ช อิน โมชั่น ลกล่าวด้วยว่า ผู้ใช้งานยังเข้าใช้งานโหมดการทำงานต่างๆ ของกล้องถ่ายรูป ที่จับภาพได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การแก้ไข จัดการ และแบ่งปันรูปภาพยังทำได้ง่ายดายมากด้วยทางเลือกในการจัดกลุ่มภาพที่พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึง Podcasts ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหา และจัดการพอดแคสต์ในรูปแบบเสียงและวิดีโอได้ โดยผู้ใช้งานสามารถดูพอดแคสต์ทั้งหมดที่บันทึกไว้ในเครื่อง หรือ ค้นดูในรายการแคตตาล็อกของพอดแคสต์ ที่ดาวน์โหลดได้ รวมทั้งสมัครใช้บริการ และดาวน์โหลดคอนเทนต์ดังกล่าวแบบไร้สายเข้ามาเก็บไว้ในเครื่องได้โดยตรง นอกจากนั้น ยังมีแอพลิเคชัน YouTube จึงทำให้การชมและการแบ่งปันวิดีโอจึงทำได้ง่ายกว่าที่เคย และผู้ใช้งานสามารถค้นหาวิดีโอได้สะดวกโดยใช้เครื่องมือ Universal Search ใหม่ที่อยู่ในระบบปฏิบัติการแบล็กเบอร์รี่ 6

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับระบบปฏิบัติการแบล็กเบอร์รี่ 6 เปิดตัวเป็นครั้งแรก นี้จะมาพร้อมกับแบล็กเบอร์รี่รุ่นใหม่ คือ ‘แบล็กเบอร์รี่ ทอช (ที่มีการเปิดตัวไปในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อไม่นานมานี้) โดยระบบปฏิบัติการดังกล่าว ยังได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้กับสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่บางรุ่นมีวางจำหน่ายแล้ว คือ แบล็กเบอร์รี่ โบลด์ 9700 และแบล็กเบอร์รี่ โบลด์ 9650 รวมทั้งสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่รุ่นใหม่ที่จะวางจำหน่ายต่อไป (ทั้งนี้โดยขึ้นอยู่กับการยืนยันของผู้ให้บริการโทรคมนาคมในอีกหลายเดือนข้างหน้า)

ข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ทดสอบ TOT 3G แรง! เร็ว! แค่ไหน สมกับการรอคอยของคนไทยหรือไม่


                
             

ในที่สุดเกือบ 10 ปีแล้ว ที่ TOT เพิ่งตื่นจากภวังก์แห่งความมืด มาลุย 3G ที่ตนเองมีสิทธิ์ในการใช้คลื่นความถี่ 3G ตั้งนานแล้ว ประกาศเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ เวลา 15.00 น. ที่ Central World แต่ตอนนี้ทาง TOT แถลงข่าวถึงความพร้อมกันแล้วในวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนที่จะเปิดระบบให้ทดสอบให้กับประชาชนทั่วๆ ไปกันในงาน Commart Comtech 2009 ที่จะจัดขึ้นกันในวันที่ 5-8 พฤศจิกายนนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

             

และ MXPhone.com ก็ไม่พลาดที่จะได้ไปทดลองใช้งาน TOT 3G นะครับ ซึ่งในการแถลงข่าวครั้งนี้ จัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ TOT ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งในงานจัดแบ่งการทดสอบใช้งานเป็น สามการใช้งาน ได้แก่


1. การทดสอบต่ออินเตอร์เนทแบบใช้โทรศัพท์มือถือที่รองรับ 3G ย่าน 2100 MHz

2. การทดสอบต่ออินเตอร์เนทแบบใช้แอร์การ์ดที่รองรับ 3G ย่าน 2100 MHz download ที่ 3.6 / 7.2 mbps

3. การใช้งาน Video call

           

เริ่มจากการต่ออินเตอร์เนทจากมือถือนั้น เนื่องจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อนั้นเป็น Nokia 2730 Classic ซึ่งรองรับ 3G แบบเก่า หรือว่า WCDMA ความเร็วเพียง 384 kbps เท่านั้น แต่ speed ที่ลองทดสอบนั้น ก็ได้ตามความสามารถของมันละครับ

       

ข้ามมาส่วนที่สองกันดีกว่าครับ มาถึงส่วนของแอร์การ์ดที่มีสองแบบ คือ download ได้ที่ 3.6 และ 7.2 mbps ครับ ซึ่งผลการทดสอบนั้น เรามาตามดูกันดีกว่าครับ

          

เริ่มจากแอร์การ์ดแบบ USB Dongle สีขาวๆ ซึ่งผมเองก็พลาดที่ดูว่ายี่ห้ออะไร ซึ่งลองๆ ดูแล้ว ได้ speed download ประมาณ 3 mbps และ upload ที่ประมาณ 1 mbps ครับ ถือว่า ค่อนข้างได้ speed เต็ม เมื่อเทียบกับความสามารถของ aircard ที่รองรับความเร็วในการใช้งาน 3.6 mbps ครับ

      

มาอันต่อมา เป็นแอร์การ์ดแบบ USB Dongle อีกเช่นกัน อันนี้ยี่ห้อ huawei รุ่นอะไรผมเองก็ลืมดู ลอง speed แล้วพบว่า ได้ความเร็วมากกว่าตัวแรก คือประมาณเกือบ 6 mbps ครับ ส่วน upload อยู่ที่ 1 mbps ครับ
      

เทียบกับความสามารถของแอร์การ์ดที่รองรับความเร็ว 7.2 mbps ถือว่าโอเคแล้วละครับในบ้านเรา

     

สุดท้าย คือการทดลองใช้งาน Video call ครับ ซึ่งก็ไม่ต่างจากเจ้าอื่นๆ ที่ทดลองใช้งานกันไปแล้วครับ การทำงานของมันคือการส่งภาพ Video ความละเอียด 64 kbps ไปยังปลายทาง ภาพที่ได้ก็ดูรู้เรื่องว่าใครเป็นใครครับ

         

จากการที่ลองใช้งาน และการได้พูดคุยกับทางผู้บริหาร ได้ข้อมูลที่น่าเป็นห่วงว่า เรื่องความสามารถของ device และ network ที่ได้เปรียบของช่องสัญญาณ และความถี่ที่มีมหาศาล ไม่เป็นปัญหาหรอกครับ แต่ link internet ที่เชื่อมต่อไปที่ isp ต่างๆ นั้น จะเพียงพอ และรองรับการใช้งานพร้อมๆ กัน ในบริเวณนั้น ๆ ได้หรือไม่ หากไม่สามารถจัดการให้ดีได้ ก็ไม่ต่างจากอินเตอร์เนทที่เป็นเทคโนโลยี EDGE หรอกครับ
ข้อมูล :  www.mxphone.com